ท่าอากาศยานนานาชาติเทียนจินปินไห่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเทียนจิน เป็นศูนย์กลางสำคัญในด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศของจีนโดยในปี พ.ศ. 2550 สนามบินสามารถรองรับสินค้าทั้งสิ้น 125,087 ตัน ทำให้กลายเป็นสนามบินที่พลุกพล่านเป็นอันดับที่ 12 และมีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของจีน กล่าวคือ มีการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้น 19.5% จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 39.6% และจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้น 29.3% ในปี ค.ศ. 2010 มีจำนวนผู้โดยสารผ่านทั้งสิ้น 7,277,106 คนท่าอากาศยานเทียนจินปินไห่เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินเทียนจินแอร์ไลน์ เทียนจิน หรือ เทียนสิน เป็นหนึ่งในสี่เทศบาลนครของประเทศจีน ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ติดชายฝั่งทะเลปั๋วไห่ เป็นหนึ่งในนครศูนย์กลางแห่งชาติทั้งเก้าแห่งของประเทศจีน มีประชากรในปี ค.ศ. 2016 ประมาณ 15,621,200 คน ใจกลางเมืองของเทียนจินมีผู้อาศัยในปี ค.ศ. 2016 อยู่ราว 12,491,300 คน เป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 29 ของโลก (อยู่ระหว่างเฉิงตูและรีโอเดจาเนโร) และเป็นนครที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก
เทียนจินปกครองแบบเทศบาลนครที่อยู่ภายใต้การบริหารโดยตรงของรัฐบาลกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเทศบาลนครเป็นเขตการปกครองที่มีระดับเทียบเท่ากับมณฑล อาณาเขตของเทียนจินถูกล้อมรอบโดยมณฑลเหอเป่ย์ทั้งทางทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศใต้ ติดต่อกับปักกิ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และติดต่อกับทะเลปั๋วไห่ทางทิศตะวันออก ในแง่ของจำนวนประชากรเฉพาะในเขตเมือง เทียนจินเป็นนครที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศจีน รองจากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกว่างโจว ส่วนในแง่จำนวนประชากรตามเขตเทศบาลนคร จะอยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศ เทียนจินเป็นส่วนหนึ่งของขอบเศรษฐกิจปั๋วไห่ (Bohai Economic Rim)
เมืองเทียนจินและกำแพงเมืองสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1404 ต่อมาหลังจากที่เปิดให้มีการค้าต่างประเทศในปี ค.ศ. 1860 เทียนจินได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นประตูสู่ปักกิ่ง ในเวลานั้น มีการก่อสร้างอาคารและคฤหาสน์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปจำนวนมาก ซึ่งหลายแห่งก็ได้รับการบำรุงรักษามาจนถึงปัจจุบัน หลังจากก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เทียนจินประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลกลาง อีกทั้งมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในถังชาน ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทียนจิน แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูในทศวรรษ 1990 ปัจจุบัน เทียนจินเป็นนครที่มีศูนย์กลางสองแห่ง ได้แก่ ศูนย์กลางแห่งที่หนึ่งอยู่ในเขตเมือง (รวมถึงเมืองเก่าด้วย) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไห่ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำหวงและแม่น้ำแยงซีผ่านทางคลองใหญ่ และศูนย์กลางแห่งที่สองคือ เขตปินไห่ เป็นพื้นที่เมืองใหม่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลปั๋วไห่ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเก่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 ย่านการเงินยฺหวีเจียพู่ของเทียนจินกลายเป็นที่รู้จักในนาม แมนฮัตตันของจีน เทียนจิน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปักกิ่ง ด้านตะวันออกติดกับอ่าวป๋อไห่ (Bohai Bay) มีสถานภาพเป็น “เทศบาลเมือง” (Special Municipality) ซึ่งการปกครองขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง ห่างจากเมืองปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวง ประมาณ 120 กิโลเมตร
พื้นที่เมืองของเทียนจินตั้งอยู่ตามแม่น้ำไห่เหอ (Hai He River) ท่าเรือที่อยู่ห่างไกลตั้งอยู่บนอ่าวป๋อไห่ (Bohai Gulf) บนมหาสมุทรแปซิฟิก เทศบาลนครเมียนจินมีพรมแดนติดต่อกับเหอเป่ย ไปทางเหนือ ใต้ และ ตะวันตก ติดต่อกับเทศบาลนครปักกิ่งในส่วนเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และติดต่อกับอ่าวป๋อไห่ไปทางตะวันออกเทียนจิน นอกจากจัดเป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศจีนท่าเรือเทียนจินมีสินค้าเข้าออกราว 160 ล้านตัน โดยสินค้าที่ผ่านท่าเรือแห่งนี้กว่า 80% เป็นถ่านหิน แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์น้ำมัน จึงนับเป็นศูนย์ท่าเรือใหญ่ริมทะเลป๋อไห่ทางภาคเหนือของประเทศ ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางทางการค้า การขนส่งการสื่อสารที่สำคัญของจีนตอนเหนือ มีชายฝั่งทะเลยาว 133 กม.ทางฝั่งตะวันออก อุดมด้วยทรัพยากรทางทะเล และยังเป็นเขตเมืองท่าและฐานอุตสาหกรรมทางทะเลที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในมหาสมุทรกว่างโจว กวางโจว หรือ กวางเจา เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง กว่างโจวเป็นเมืองใหญ่สุดทางภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นมณฑลซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา นอกจากนั้นเมืองกว่างโจวยังมีสำเนียงเฉพาะถิ่นที่ถือว่าเป็นมาตรฐานของ ฮ่องกง และมาเก๊า เรียกว่า สำเนียงกว่างโจวอีกด้วย
เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเลในครั้งอดีต และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขายกว่างโจวแม้จะเป็นศูนย์กลางในการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน แต่กว่างโจวยังมีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในรูปสถานที่สำคัญต่าง ๆ ปัจจุบันกว่างโจวมีบทบาทเป็นเมืองในเขตเศรษฐกิจการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในภาคใต้ของจีน และยังได้รับสถานะเป็นหนึ่งในสามเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของจีน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีผลผลิตโดยรวมมากที่สุดด้วย นอกจากนั้นยังมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ทันสมัย มีระบบรถไฟใต้ดินครอบคลุมเมืองชั้นในทั้งหมด รวมทั้งด้านภูมิอากาศ อาหาร การดำรงชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ก็มีความคล้ายคลึงกับประเทศไทยกว่างโจวมีภาพลักษณ์ค่อนข้างแตกต่างจากเมืองทางเหนือ ซึ่งบรรยากาศที่เต็มไปด้วย “ราชการและเป็นทางการ” แต่ในกว่างโจวจะรู้สึกและรับรู้ได้ถึง “การค้าและความวุ่นวาย” กว่างโจว เคยใช้เป็นสถานที่หลักที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2010 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2553